
ระบบไฟฟ้าโรงงาน
ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม มีองค์ประกอบอะไรบ้างที่ควรรู้
“ไฟฟ้าโรงงาน” หรือ “ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม” คือระบบที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับใช้งานภายในโรงงานหรือสถานประกอบการที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าในระดับสูงกว่าบ้านพักอาศัยทั่วไป ระบบนี้ประกอบด้วยโครงข่ายการจ่ายไฟหลัก อุปกรณ์ควบคุม ระบบป้องกันไฟฟ้า และสายส่งไฟฟ้าที่ถูกติดตั้งตามมาตรฐานความปลอดภัยทางไฟฟ้า เพื่อรองรับภาระโหลดสูง เช่น เครื่องจักรกล สายพานลำเลียง ระบบปรับอากาศ และอุปกรณ์ควบคุมอัตโนมัติ
ขนาดโรงงานและกำลังไฟฟ้าที่ควรใช้
การเลือกขนาดกำลังไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของโรงงาน โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้ดังนี้
- โรงงานขนาดเล็ก คือโรงงานที่มีพื้นที่ไม่เกิน 200 ตร.ม. กำลังไฟฟ้าที่เหมาะสมคือ 50-100 kVA
- โรงงานขนาดกลาง คือ โรงงานที่มี พื้นที่ 200-1,000 ตร.ม. กำลังไฟฟ้าที่เหมาะสมคือ 100-300 kVA
- โรงงานขนาดใหญ่ คือ โรงงานที่มีพื้นที่มากกว่า 1,000 ตร.ม. กำลังไฟฟ้าที่เหมาะสมคือ 300 kVA ขึ้นไป
ประเภทของระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
1. ระบบไฟฟ้ากำลัง (Power System) ระบบไฟฟ้ากำลังทำหน้าที่หลักในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในโรงงาน โดยทั่วไปจะเป็นระบบแรงดันสูงหรือแรงดันต่ำ ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของเครื่องจักร ซึ่งระบบนี้จะครอบคลุมอุปกรณ์ เช่น
- หม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer)
- ตู้ควบคุมไฟฟ้า (Switchgear)
- สายไฟฟ้าหลัก (Main Power Cable)
- ระบบสำรองไฟ (UPS, Generator)
2. ระบบไฟฟ้าควบคุม (Control System) ระบบนี้ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องจักรหรือกระบวนการผลิต มักใช้ร่วมกับ PLC (Programmable Logic Controller) หรือ SCADA เพื่อให้สามารถควบคุมและตรวจสอบสถานะการทำงานได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับงานอัตโนมัติ, สายพานการผลิต, หุ่นยนต์อุตสาหกรรม ลดความผิดพลาดจากมนุษย์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
3. ระบบแสงสว่าง (Lighting System) แม้จะเป็นส่วนพื้นฐาน แต่ระบบไฟฟ้าสำหรับแสงสว่างก็มีความสำคัญในด้านความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
- มีทั้งแสงสว่างทั่วไป และแสงเฉพาะจุด (Task Lighting)
- ต้องออกแบบให้เหมาะกับพื้นที่ เช่น บริเวณผลิต ห้องควบคุม หรือคลังสินค้า
4. ระบบไฟฟ้าสำรอง (Emergency Power System) ระบบนี้ทำหน้าที่ให้พลังงานไฟฟ้าในกรณีที่เกิดไฟดับ หรือระบบหลักมีปัญหา เช่น
- เครื่องปั่นไฟ (Generator)
- ระบบ UPS (Uninterruptible Power Supply)
- แบตเตอรี่สำรอง
ระบบสำรองนี้มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต หรือความเสียหายต่อข้อมูลในระบบอัตโนมัติ
5. ระบบป้องกันฟ้าผ่าและกราวด์ (Lightning Protection & Grounding System) ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากฟ้าผ่าหรือไฟฟ้าสถิต ซึ่งอาจทำลายอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบควบคุม ใช้สายกราวด์และสายล่อฟ้า ช่วยลดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
6. ระบบไฟฟ้าสื่อสารและควบคุมข้อมูล (Communication & Data System) เชื่อมโยงระบบควบคุมต่าง ๆ ภายในโรงงาน เช่น ระบบ SCADA, IoT, ระบบกล้องวงจรปิด, เซนเซอร์ และระบบแจ้งเตือน เน้นความแม่นยำ ความเร็ว และความปลอดภัยของข้อมูล ใช้สายสัญญาณเฉพาะ เช่น Fiber Optic, LAN, RS-485 เป็นต้น
องค์ประกอบในระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
การวางระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมมีรายละเอียดซับซ้อนมากกว่าอาคารทั่วไป เนื่องจากต้องรองรับเครื่องจักรที่กินไฟสูง และจำเป็นต้องมีความปลอดภัยระดับสูง โดยองค์ประกอบหลักที่ควรให้ความสำคัญ ได้แก่
- หม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งาน
- ตู้เมนจ่ายไฟ (Main Distribution Board – MDB) ควบคุมและกระจายไฟฟ้าไปยังส่วนต่าง ๆ ของโรงงาน ทางบริษัทฯ รับผลิต ตู้ MDB ตามแบบและความต้องการของลูกค้า รองรับโหลดสูงและปรับปรุงค่า Power Factor ได้
- ตู้ย่อยไฟฟ้า (Distribution Board – DB) กระจายไฟไปยังเครื่องจักรหรืออุปกรณ์เฉพาะจุด เช่น สายพาน, ปั๊มน้ำ หรือเครื่องแปรรูปอาหาร
- ตู้ควบคุมอัตโนมัติ (Programmable Logic Controller – PLC) ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องจักรอัตโนมัติ ลดความผิดพลาดจากมนุษย์ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เหมาะกับโรงงานยุคใหม่ที่ต้องการระบบ Smart Factory
สิ่งที่ต้องคำนึงในการติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงาน
การวางระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมถือเป็นงานที่ซับซ้อนและต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อทั้งประสิทธิภาพการผลิต ความปลอดภัยของบุคลากร และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ดังนั้นจึงมีหลายองค์ประกอบที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
- ความต้องการใช้ไฟฟ้า การออกแบบระบบไฟฟ้าให้สามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งในระยะสั้นและในอนาคต จำเป็นต้องประเมินโหลดไฟฟ้าอย่างถูกต้อง เพื่อกำหนดขนาดของสายไฟ อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า และหม้อแปลงที่เหมาะสม อีกทั้งยังต้องวางตำแหน่งแผงควบคุมและเส้นทางสายไฟให้สะดวกต่อการตรวจสอบและดูแลรักษา รวมถึงรองรับการขยายระบบในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ด้านความปลอดภัย ระบบไฟฟ้าในโรงงานต้องได้รับการติดตั้งด้วยอุปกรณ์ป้องกันที่ได้มาตรฐาน เช่น ระบบกราวด์ ระบบตรวจจับไฟฟ้ารั่ว และอุปกรณ์กันไฟฟ้าลัดวงจร พร้อมทั้งออกแบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- การบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โรงงานควรพิจารณาใช้ระบบตรวจวัดและควบคุมการใช้ไฟฟ้า เพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงการใช้พลังงานให้คุ้มค่า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจในระยะยาว
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าภายในโรงงาน
ระบบไฟฟ้าโรงงานเป็นระบบที่มีความซับซ้อนและต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง เพราะอาจเกิดปัญหาการเสื่อมสภาพของฉนวนสายไฟ การหลวมของจุดต่อสาย และการทำงานผิดปกติของอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การลัดวงจรหรือไฟไหม้ได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในโรงงาน บริษัท แฟลชอิเลคทริค เอ็นจิเนียริ่ง ซัพพลาย จำกัด มุ่งเน้นให้บริการทางด้านออกแบบงานระบบไฟฟ้าผลิตตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ผลิตตู้ควบคุมมอเตอร์/PLC ระบบไฟฟ้าบิตคอยน์ บริการติดตั้งงานระบบไฟฟ้า และ จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าในโรงงาน โดยมีทีมงานที่มีความรู้ความสามารถ มากประสบการณ์ ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีที่สุด และตรงต่อความต้องการของลูกค้ามากที่สุด สั่งซื้อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร 02-0955109 ต่อ 3, 088-987-5599 หรือที ADD LINE สอบถาม